บาคาร่าออนไลน์ รมว.ยุติธรรม แจง นักโทษแหกคุกบุรีรัมย์เหลืออีก 1 เร่งหาสาเหตุทั้งหมด

บาคาร่าออนไลน์ รมว.ยุติธรรม แจง นักโทษแหกคุกบุรีรัมย์เหลืออีก 1 เร่งหาสาเหตุทั้งหมด

วันที่ 30 มี.ค.63 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการ บาคาร่าออนไลน์ กระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีความคืบหน้าการติดตามตัวผู้ต้องขังที่หลบหนีออกจากเรือนจำจังหวัดบุรีรัมย์ว่า ล่าสุดจากนักโทษ 2,106 คน ตรวจสอบพบว่า หนีออกจากเรือนจำ 11 คน จับได้แล้ว 10 หลบหนีไปได้จำนวน 1 คน คือ นายธันยพงศ์ สินพูน อายุ 26 ปี ชาวบุรีรัมย์ อยู่ระหว่างเร่งติดตามตัว ส่วนผู้ต้องขังที่ไม่เกี่ยวข้อง ก็ได้กระจายออกไปสู่เรือนจำใกล้เคียง อาทิ เรือนจำอำเภอนางรอง เรือนจำชั่วคราวบ้านสง่างาม จังหวัดบุรีรัมย์ ทัณฑสถานเกษตรอุตสาหกรรมเขาพริก จังหวัดนครราชสีมา และเรือนจำกลางสุรินทร์ เป็นต้น

นายสมศักดิ์กล่าวว่า “ต้องยอมรับว่าเหตุการณ์นี้รุนแรง และไม่เคยเกิดขึ้น 

ความเสียหายที่เรือนจำบุรีรัมย์ แทบจะ 100% เวลานี้กำลังเร่งให้ประเมินค่าความเสียหาย และได้สั่งให้ตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมดแล้ว ว่าใครเป็นคนปลุกปั่น และสาเหตุทั้งหมดอย่างละเอียดเป็นมาอย่างไร แต่ต้องใช้เวลาสอบสวน เพราะผู้ต้องขังเวลานี้ กระจายไปกว่า 10 เรือนจำ

ส่วนมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่หลายคนกังวล ขอยืนยันว่า ทางเรือนจำมีมาตรการป้องกันอย่างดีมาตลอด โดยใช้วิธีคนในห้ามออก คนนอกห้ามเข้า มีการทำห้องกักโรคเพิ่มการคัดกรองผู้ต้องขังเข้มงวด ซึ่งจนถึงเวลานี้ เรือนจำทั่วประเทศ พบผู้ต้องขังติดเชื้อเพียง 1 ราย  ซึ่งทำการรักษาที่โรงพยาบาลแล้ว จนถึงตอนนี้ไม่มีผู้ต้องขังติดเชื้อโควิด-19 เพิ่ม

ขอให้ทุกฝ่าย อย่าวิตกกังวล เพราะเหตุการณ์ที่เรือนจำบุรีรัมย์ เป็นเพียงการกล่าวอ้าง เพื่อปลุกปั่น ต้องการจะแหกคุก ซึ่งการจะยกเหตุผลไม่ให้เยี่ยมญาติ คงไม่ใช่ประเด็น และขอย้ำว่า ทุกมาตรการที่กรมราชทัณฑ์ออกมา ไม่ได้เป็นการลิดรอนสิทธิของผู้ต้องขัง แต่เป็นการป้องกันไม่ให้ไวรัสโควิด-19 กระจายสู่ผู้ต้องขัง ซึ่งอยากให้ทุกคนทำความเข้าใจ”

รายงานแจ้งว่า นายธันยพงศ์ สินพูน เป็นผู้ต้องขังระหว่างสอบสวน (ฝากขังระหว่างสอบสวน) เข้ามาเมื่อวันที่ 18 มีนาคม 63 กระทำผิดฐาน พ.ร.บ.ยาเสพติดประเภท 1 (ร่วมกันครอบครองเพื่อจำหน่ายและเสพ) มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาต และต่อสู้ขัดขืนเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่โดยใช้กำลังประทุษร้าย

สหภาพแรงงานการบินไทยขอให้ปฏิบัติต่อลูกจ้าง-พนักงาน ตามมาตรฐานแรงงานสากล

แถลงการณ์พันธมิตรสหภาพแรงงานคนทำงานสนามบิน สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส) และคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย (คสรท.) เรื่อง ความห่วงใยต่อเพื่อนพี่น้องแรงงานในอุตสหกรรมการบินภายใต้สถานการณ์ระบาดโควิด-19

ด้วยสถานการณ์กระแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ หรือ โควิด-19 (Covid-19) ที่เริ่มมาตั้งแต่ปลายปี พ.ศ. 2562 และระบาดมากขึ้นจนเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2563 องค์การอนามัยโลกได้ประกาศให้เป็นโรคระบาดใหญ่ทั่วโลก เพราะนอกจากแพร่ระบาดไปนอกเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย์ ประเทศจีนแล้ว ก็ยังระบาดไปทั่วจีน และทั่วโลกมากกว่า 199 ประเทศ และดินแดนต่าง ๆ จนมีจำนวนสะสมผู้ป่วยมากกว่า 6 แสนคน และผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 31,737 (ข้อมูลวันที่ 29 มีนาคม 2563) สำหรับประเทศไทย การแพร่ระบาดได้ทวีความรุนแรง จนกระทั่งรัฐบาลได้ออกประกาศใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2563 เพื่อควบคุมมิให้ไวรัสแพร่ระบาดออกไปในวงกว้าง

ความหวาดหวั่นและความรู้สึกไม่ปลอดภัยจากโรคระบาดทำให้มีผู้โดยสารด้วยสายการบินน้อยลง การห้ามผู้โดยสารต่างประเทศเข้าประเทศ โดยอาศัยอำนาจตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 นโยบาย Work from Home เพื่อให้ประชาชนอยู่กับบ้าน โดยไม่เดินทางที่เสี่ยงต่อการแพร่กระจายของไวรัสมากขึ้น ล่วนส่งผลกระทบต่อธุรกิจสายการบินของประเทศไทยอย่างหนัก บริษัทสายการบินราคาประหยัดหลายบริษัทออกประกาศลด/หยุดบินชั่วคราว และล่าสุด การบินไทยได้ประกาศหยุดบินชั่วคราว ทั้งเส้นทางในภูมิภาค ยุโรปและออสเตรเลีย จนถึงวันที่ 31 พ.ค. 2563 เหตุการณ์เหล่านี้ กระทบต่อการจ้างแรงงานหลายหมื่นคน ตลอดทั้งห่วงโซ๋คุณค่าของอุตสาหกรรมการบิน ลูกจ้างสัญญาจ้างหลายแห่งถูกเลิกจ้าง พนักงานประจำถูกกดดันให้ลดเงินเดือนค่าจ้าง

การประกาศหยุดบินชั่วคราวของการบินไทย ส่งผลกระทบอย่างยิ่งต่อการจ่างแรงงานที่แป็นพนักงานประจำของบริษัทการบินไทยจำนวน 2 หมื่นคน และแรงงาน outsource ของบริษัททวิงสแปน 4,900 คน ที่ส่งแรงงานไปปฏิบัติให้กับการบินไทย พันธมิตรและสหภาพแรงงานคนทำงานสนามบิน สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ และคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย มีความกังวลอย่างยิ่งต่อการจ้างแรงงานเหล่านี้

แม้ว่าวิกฤตครั้งนี้จะเกิดขึ้นทั่วโลก หลายประเทศได้รับผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ รวมทั้งประเทศไทย แต่ก็ไม่อยากให้มีการซ้ำเติมชีวิตของแรงงานเหล่านี้ด้วยการออกมาตรการกความอยู่รอดของนายจ้าง เช่น การเลิกจ้าง เป็นต้น ซึ่งครั้งหนึ่งในอดีต ธุรกิจสายการบินได้สร้างผลกำไรให้เกิดขึ้นมากมาย และแรงงานเหล่านรรี้ก็มีส่วนในความสำเร็จเหล่านั้นของนายจ้าง เมื่อเกิดวิกฤตครั้งนี้ จึงขอเรียกร้องให้นายเจ้าและรัฐบาลช่วยดูและแรงงานเหล่านี้ให้ผ้านพ้นวิกฤติไปด้วยกัน บาคาร่าออนไลน์